วันนี้เราจะมา แนะนำเครื่องเล่นเกม ถ้าย้อนกลับไปในช่วง ยุค 90 Sony ได้ผลิตเกมคอนโซลในชื่อของ Play Station ออกมาสู่ตลาดและได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ครองใจคนได้แทบจะทุกเพศทุกวัย เช่นเดียวกันกับอีกค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Sega ที่ได้ผลิตเครื่อง เกมคอลโซล Sega Saturn ออกมาตีตลาดคู่กับ PS1
เครื่อง เกมคอลโซล Sega Saturn
วางขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 เดือนพฤศจิกายน ปี 1994 ก่อนหน้า PS เพียงไม่กี่วันเท่านั้น (PS วางขาย 3 ธันวาคม 1994) ตัวเครื่องมาในทรงสี่เหลี่ยมมี 2 สี โดยฝั่งยุโรปหรืออเมริกาจะเป็นเครื่องสีดำ ส่วนในฝั่งญี่ปุ่นจะเป็นเครื่องตัวสีขาว ใช้ซีดีรอมในการเล่นเกม
ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่มากในยุคนั้น นอกจากจะเล่นเกมแล้วยังสามารถใช้ดูหนัง, ฟังเพลง ได้อีกด้วย แทบจะเรียกได้ว่าการทำงานของเครื่องนั้นไม่แตกต่างอะไรกับ PS1 จากฝั่งของ Sony เลย
วันเวลาล่วงเลยไปหลังจากที่ PS วางขายตามมา ยอดขายของเครื่องเกมคอลโซล Sega Saturn สะดุดลงอย่างเห็นได้ชัดสาเหตุมาจากที่ผู้บริโภคเลือกที่จะซื้อ PS มาเล่นมากกว่าเพราะมีเกมให้เล่นมากมายผิดกับทาง Sega ที่มีเกมให้เลือกน้อย
เกมดังๆ ส่วนมากแทบจะไม่ทำแผ่นลงมาเครื่อง Saga แต่ที่ยังขายได้เพราะมีเกมติดอันดับตลาดอย่าง Sonic เป็นตัวชูโรง และยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ Sega ไม่สามารถพัฒนาให้ขึ้นมาเทียบเท่ากับ PS ได้ ซึ่งหลายคนคาดการณ์ปัจจัยนั้นน่าจะเป็นเงินทุนที่ไม่มากพอทำให้การพัฒนาตัวเครื่องมีขีดจำกัดในหลายๆอย่าง
แม้ว่าจะมีปัญหามากมายหลายอย่างแต่ไม่ทำให้ทางบอร์ดบริหารของเครื่องเกมคอลโซล Sega Saturn ท้อแต่อย่างใด และในปี 1998 ได้มีการวางขายเครื่อง Dreamcast ออกมาและได้รับความสนใจจากเกมเมอร์เป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่หลายๆ คนได้ลองซื้อไปเล่นปัญหาเดิมๆ ก็กลับมาอีกครั้ง เลยทำให้ทางค่ายต้องยุติการขายทั้งหมด
โดยหยุดการผลิตในปี 2000 ขายไปได้ทั้งหมด 9.26 ล้านเครื่อง ส่วน Dreamcast ยุติการผลิตในปี 2001 ขายได้ไป 9.13 ล้านเครื่อง และตั้งแต่นั้นมา Sega ก็ไม่เคยผลิตเครื่องเกมออกมาอีกเลย
